black card

• facebook
• twitter
• line

ความแตกต่างระหว่างบัตรเครดิตทั่วไปกับ black card จุดเด่นและสิทธิพิเศษที่ควรทราบ

เมื่อได้ยินชื่อของ black card บางคนก็จะนึกถึงสีดำที่เป็นความหมายภาษาไทยของคำว่า black ทันที และคิดว่าบัตรใบนี้น่าจะเป็นตัวแทนของสิทธิพิเศษบางอย่างที่ผู้ถือบัตรจะได้รับไปหากได้ครอบครอง แต่เชื่อได้ว่าหลายคนคงยังไม่ทราบว่า black card นั้นมีประวัติหรือว่าความเป็นมาเป็นอย่างไร โดยบัตรนี้มีสำหรับคนที่สถานะทางการเงินสูงถึงจะได้ถือบัตร บางคนอาจจะเคยได้ยินในซีรี่ส์เกาหลีว่าบัตรเครดิต black card จะให้วงเงินแบบไม่จำกัดแก่ผู้ถือ ว่ากันง่ายๆ ก็คือจะใช้เท่าไหร่ก็ได้ ซึ่งคนอื่นๆ ที่ได้ยินข้อมูลดังกล่าวก็จะคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหลเป็นไปไม่ได้แน่ๆ แต่ black card คือบัตรที่ให้อิสระทางการเงินแก่ผู้ถือจริงๆ ถึงแม้ว่าวงเงินที่จะได้จาก black card จะไม่ถึงขั้นไร้จำกัดใช้ได้ไปเรื่อยๆ ก็ตาม โดยบทความนี้จะช่วยให้ข้อมูลแก่ท่านผู้อ่านเกี่ยวกับ black card แต่ละแบบที่มีให้ทำในประเทศไทย ว่าผู้อยากได้จะต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง อย่างแรกที่ควรทราบก็คือถ้าหากท่านไปติดต่อตามธนาคารต่างๆ ทั่วไปว่าขอทำบัตร black card ท่านจะได้รับการปฎิเสธอย่างแน่นอน เพราะนี่ไม่ใช่บัตรที่สามารถทำได้ตามธนาคารทั่วไปโดยปกติแต่สำหรับกรณีของ black card ผู้ที่จะได้ถือบัตรจะต้องได้รับเชิญจากทางผู้ออกบัตรอย่างเช่นแบล็คการ์ดเท่านั้น

black card กับธนาคารใหญ่ หรือ black card american express

สำหรับในส่วนของ black card american express นั้น ผู้ที่จะได้รับเลือกให้ได้บัตรและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่จะตามมาจากการถือบัตรที่ไม่เหมือนใคร เพราะ american express หรือ amex เป็นเจ้าแรกที่ผลิต black card ขึ้นมา โดยหากอยากจะถือบัตรใบนี้คุณจะต้องใช้จ่ายผ่านบัตรใบอื่นๆ ของ american express ที่คุณถืออยู่โดยวงเงินบัตรเครดิตที่ใช้จะต้องมากกว่า 250,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ หรือมากกว่า 8 ล้านบาทต่อปี จึงจะเข้าข่ายได้รับ black card ไป บางคนก็สงสัยว่านอกจากการใช้จ่ายให้ถึงยอดดังกล่าว แบล็คการ์ดต้องมีเงินเท่าไหร่ถึงจะพอจ่ายค่าธรรมเนียมต่างๆ ได้ สำหรับค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตใบนี้ถ้าเป็นค่าแรกเข้าจะอยู่ที่ 5,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ส่วนค่าธรรมเนียมรายปีนั้น สำหรับ black card ของอเมริกันเอ็กซ์เพรสจะคิดถึงปีละ 2,500 เหรียญ แปลว่าปีแรกคุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม black card 180,000 บาทไทยเลยทีเดียว และรายได้ขั้นต่ำคุณจะต้องมีมากกว่า 30 ล้านถึง 480 ล้านบาทต่อปีเลยทีเดียวสำหรับ black card ถือว่าเป็นเงื่อนไขที่ทำให้คนที่มีฐานะระดับมหาเศรษฐีเท่านั้นที่พอจะใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตชนิดนี้ได้ แต่ก็จะแลกกับการเข้าถึงบริการที่มีความแตกต่างเฉพาะตัวในระดับที่เหมาะสมกับค่าธรรมเนียมบัตรที่เสียไป 

central black card คืออะไร? และจุดเด่นของ black card จาก central

สำหรับ black card จากทางฝั่งเซ็นทรัล หรือที่เรียกว่า เดอะ วัน แบล็คนั้น นอกจากจะได้รับสิทธิในการใช้ห้องรับรองพิเศษรวมถึงที่จอดรถเฉพาะเมื่อเข้าใช้บริการที่ห้างเซ็นทรัลแล้ว และเมื่อทำการใช้จ่ายผ่าน central black card ก็จะได้รับแต้มสะสมของ the one เป็นสี่เท่าจากบัตรปกติ และได้รับส่วนลด 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อซื้อสินค้าผ่าน black card ในเซ็นทรัล โดยในส่วนของวงเงินบัตรเครดิตก็ถือว่าไม่มีจำกัดเช่นกัน แต่แน่นอนว่าผู้ที่จะถือบัตรใบนี้ได้จะต้องเป็นลูกค้าสุดพิเศษของทางเซ็นทรัลเท่านั้นที่จะได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ซึ่งจะแจ้งว่าบุคคลผู้นั้นได้รับสิทธิพิเศษสำหรับถือบัตรอย่าง black card ไป และทั้งหมดนี้ก็คือข้อมูลสรุปโดยย่อสำหรับผู้สงสัยว่าบัตรใบนี้นั้นคืออะไร และทำอย่างไรเพื่อที่จะได้มีสิทธิในการครอบครองบัตรใบนี้ ซึ่งสามารถสรุปได้คร่าวๆ ก็คือต้องได้รับเลือกเท่านั้นถึงจะมี black card ได้ ส่วนถ้าอยากอ่านรีวิวเกี่ยวกับบัตรใบนี้ก็สามารถหาอ่านได้ทั่วไปในโลกออนไลน์เช่นกัน